วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561

AVENGERS: INFINITY WAR (2018)

AVENGERS: INFINITY WAR (2018) มหาสงครามอัญมณีล้างจักรวาล
      10 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก…สำหรับจักรวาลหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลที่เดินทางมาจนถึงมหาสงครามแห่งอัญมณี อินฟินิตี้สโตน ที่หนังเริ่มปูทางมาทีละเล็กทีละน้อยจนจักรวาลหนังเข้มแข็งมากๆและกลายเป็นกระแสอย่างในทุกวันนี้ พูดง่ายๆว่ามันไม่ได้ผลิดอกออกผลเพียงเพราะความสำเร็จจากหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่หนังทุกเรื่องแม้แต่เรื่องที่เราอาจจะคิดว่ามันแย่ที่สุดในจักรวาลหนัง มันก็ยังมีส่วนซับพอตเรื่องราวจนมาถึงจุดที่แม้คุณอาจจะไม่ใช่แฟนซุปเปอร์ฮีโร่ ไม่ใช่แฟนหนังมาร์เวล คุณก็คงไม่อยากจะพลาดหนังเรื่องนี้แน่ๆ

เรื่องย่อขอเล่าแบบรวบรัดไม่สปอยก็แล้วกัน อย่างที่รู้กันว่า ธานอส พี่ยักษ์ตัวม่วงของเรานั้นต้องการสะสมอินฟินิตี้สโตนให้ครบเพื่อเป้าหมายในการล้างจักรวาล ซึ่งอย่างที่หลายคนน่าจะรู้กันไปบ้างแล้วว่าแต่ละเม็ดอยู่ที่ไหนกับใครบ้าง เหลือแค่เพียง Soul Stone ที่ ธานอส และคนดูอย่างเราเรายังไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่ พี่ยักษ์ม่วง ธานอส ก็เลยส่งพลพรรค Black Order มายังโลกเพื่อตามหาอัญมณีที่ตนยังไม่ได้มาครอบครอง ซึ่งเป้าหมายก็คือหมอแปลกและวิชั่นนั่นเองที่ครอบครองอัญมณีเอาไว้สองเม็ดบนโลกนั่นเอง….แค่นี้พอเนาะ ฮ่าฮ่า
ยอมรับตรงๆเลยว่าไม่ใช่คอหนังมาร์เวลหรือดีซีทั้งคู่ แต่ถามว่าดูไหมก็ดูมาเกือบทุกเรื่องนะอาจจะเว้นซี่รี่ย์กับแบล็กแพนเธอร์ที่ยังไม่ได้ดู ส่วน อเวนเจอร์ อินฟินิตี้ วอร์ นี้ มันมีทั้งข้อดีและข้อด้อยบางอย่างที่อยู่ในส่วนเดียวกัน เมื่อหนังใช้เวลาในการปูจักรวาลหนังมายาวนานถึงสิบปีทำให้คนดูมีความผูกพันกับหนังและตัวละคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปูเฉพาะฝั่งทีมฮีโร่ ถามว่าเวลาสิบปีที่ผ่านมามันเพียงพอกับการปูเนื้อเรื่องมาจนถึงวันนี้ที่หนังเข้าฉายมั้ย
      ส่วนตัวผมว่ามันเนื้อหาบางส่วนมันยังไม่พอ เหตุที่ไม่พอก็เพราะว่าหากไม่ใช่แฟนคอมมิคเราก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ธานอส เลย นอกจากคำบอกเล่าจากปาก กาโมร่า ใน GOTG พอมาถึงในภาค อินฟินิตี้ วอร์ หนังต้องมาเล่าเรื่องของ ธานอส ให้เราเข้าถึงเข้าใจตัวละครนี้ ซึ่งเชื่อว่าคนดูก็เข้าใจนะแต่ว่าความอินของเรากับหนังมันก็ไม่เชื่อมถึงกันมากขนาดนั้น ยกตัวอย่างดราม่าระหว่างพ่อลูกธานอสกับกาโมร่า หนังเล่าได้เข้าใจนะ แต่ถามว่าอินกับส่วนนี้ไหม…ก็เปล่าเลย
แต่หากมองด้วยความเข้าใจว่าหนังมันมีเวลาจำกัดเพียง 2.40 ชั่วโมง แล้วต้องเล่าด้วยจำนวนตัวละครและสเกลหนังขนาดนี้ ก็บอกตรงๆเลยว่าพี่น้องรุสโซ่ก็ทำได้สุดๆแล้วล่ะ….สารภาพตามตรงว่าก่อนจะดูนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเล่ายังไงด้วยปริมาณเนื้อหาและตัวละครขนาดนี้ แต่พอได้ดูจริงๆยอมรับเลยว่าทำได้และเอาอยู่
แต่ละตัวละครหลักที่โผล่มาในหนังไม่ได้ถูกทอดทิ้งหรือเล่าไปแบบผ่านๆ หนังเกลี่ยบทให้ความสำคัญได้ตามลำดับทุกตัวละครหลักและรอง  ถึงจะมีบางคนดร็อปไปบ้างในภาคนี้แต่เชื่อว่าหนังจงใจเก็บไว้ใช้ในภาคต่อแน่นอน  เป็นหนังที่จัดเต็มความแอคชั่นแบบที่คนดูแทบไม่ได้หยุดพักหายใจ เพียงแต่ว่ามันก็เป็นอะไรๆที่เราคุ้นเคยกันมาแล้วจากหนังมาร์เวลเรื่องก่อนหน้า แต่ฉากที่ชอบก็มีนะอย่างฉากดวงจันทร์บนดาวไททัน มันทำให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวในพลังของธานอสและอินฟินิตี้สโตนได้เลย และที่สำคัญตัวร้ายอย่าง ธานอส ก็เป็นตัวร้ายที่มีมิติ มีเลือดเนื้อ มีจิตใจ ไม่ใช่ตัวร้ายกลวงๆที่เที่ยวยกพลไปถล่มดาวนู้นทีนี้ที เพียงเพราะความมัน สะใจ หรือแค่อยากประกาศความยิ่งใหญ่ของตัวเอง
      ส่วนมุกตลกของหนังก็มาเต็มตามฉบับหนังฮีโร่มาร์เวลนั่นแหละ ยิงมุกกันเรื่อยๆขำบ้างแป๊กบ้างแต่ก็ไม่ขัดใจ ไม่ถึงกับจังหวะนรก แต่บางมุกก็ดูจงใจเล่นเกินไปจนรู้สึกเฟ้อเหมือนกันอย่างมุกของพี่แดร๊กซ์ Big Ass (ไม่ช่าย) แต่สำหรับแฟนหนังแล้วก็อาจจะถูกใจก็ได้นะเพราะมันก็เป็นลายเซ็นต์ของทีม GOTG พี่เขาอยู่แล้ว

สรุปแล้ว AVENGERS: INFINITY WAR (2018) มหาสงครามอัญมณีล้างจักรวาล เป็นหนังมาร์เวลที่เชื่อว่าหลายคนที่เสพหนังเพื่อความบันเทิงต้องชอบแน่นอน เพราะหนังจัดเต็มในส่วนนี้จริงๆ เพียงแต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าเนื้อหากับเวลาในหนังมันจำกัดจริงๆ และหนังไปเร็วมากจนเราต้องตามติดไปแบบแทบไม่ได้พักและซึมซับความรู้สึกไปกับหนัง เลยกลายเป็นว่าเราเข้าใจแต่ไม่ได้รู้สึกอินไปกับตัวละครเท่าไหร่นัก
คะแนนจากเพจ : 8.5/10 ที่หัก 1.5 เพราะเรื่องอารมณ์ร่วมกับหนังในแง่ดราม่าล้วนๆ ซึ่งมันสำคัญสำหรับหนังสักเรื่องนึงนะ แต่แง่มุมอื่นของหนังถือว่าทำได้ดีมากเท่าที่จะสามารถทำได้ทั้งหมดแล้ว
 
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : AVENGERS: INFINITY WAR (2018)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Forever and Ever (2021)

Forever and Ever (2021) ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน #Romance   #Drama  Director: Shen Yang, Ben Fang/ Screenwriter: Mo Bao Fei Bao    ...