วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561

The Best of Me (2015)

The Best of Me Movie (2015) รักแรกรักตลอดกาล
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance
      ดอว์สัน พนักงานซ่อมเครื่องยนต์บนแท่นขุดเจาะน้ำมันได้พักจากงานหลังจากที่เพิ่งรอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิดหลังเกิดอุบัติเหตุบนแท่นขุด แต่หลังจากที่รอดชีวิตมาได้กลับได้รับข่าวร้ายเมื่อ ทัค ชายผู้ที่เคยให้การดูแลเขาเสียชีวิตและได้เขียนพินัยกรรมถึง ดอว์สัน ไว้ด้วย เขาจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จากมานานอีกครั้ง

      อีกด้านหนึ่ง อแมนด้า ผู้หญิงที่เหมือนมีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งสามีนักธุรกิจและลูกชายที่กำลังจะเรียนต่อมหาลัย ซึ่งตัว อแมนด้า เองก็ได้รับการติดต่อจากทนายของ ทัค ด้วยเช่นกัน เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อฟังพินัยกรรมและคำสั่งเสียของ ทัค ที่ฝากไว้ถึงเธอ การกลับบ้านมาพบกันครั้งนี้ของ ดอว์สันและอแมนด้า มันก็ได้พาคืนวันเก่าๆของทั้งสองคนให้กลับมาชัดเจนในความรู้สึกของพวกเขาอีกครั้ง


      ถ้าพูดถึงคำจำกัดความของคำว่า “ดีที่สุด” เราจะนิยามมันว่าอย่างไรดี เพราะเอาแค่คำว่า “ดี” ของแต่ละคนก็อาจจะคนละความหมายกันแล้วยังไม่ต้องพูดถึง….ที่สุด  เอาจริงๆถ้าว่ากันถึงหนังเรื่องนี้แล้วอยากจะใช้คำว่า “รักที่สุดมากกว่า” เพราะมันคือการรักในตัวตนของคนคนนั้น ฉะนั้นไม่ว่าคนนั้นเป็นเป็นอย่างไร……เขาหรือเธอก็ย่อมดีที่สุดเสม

      ความรักของ ดอว์สันและอแมนด้า ในช่วงวัยรุ่นนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่ต่างจากนิยายรักน้ำเน่าทั่วไปที่ชายผู้ต่ำต้อยมาตกหลุมรักกันกับหญิงผู้สูงศักดิ์ แล้วต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามทั้งปัญหาจากเบื้องหลังชีวิตของตัว ดอว์สัน เอง และอุปสรรคจากครอบครัวของฝ่ายหญิง  ที่คือความโรแมนติกของหนัง 

      ในส่วนเนื้อเรื่องช่วงที่เล่าย้อนชีวิตวัยรุ่นของทั้งสองคน   คือการพาไปดูการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งค่อนข้างชอบในช่วงที่ทั้งสองคนเริ่มจีบกันนะ ด้วยความที่ อแมนด้า เป็นสาวสวยลูกคนรวยเลยทำให้เธอมีความมั่นใจในตัวเองจึงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

      ต่างจาก ดอว์สัน ที่ทางบ้านมีปัญหาแถมโดนใช้ความรุนแรงเป็นประจำ   จึงไม่กล้าที่จะมีความสัมพันธ์กับใคร แต่ ดอว์สัน ก็ยังโชคดีที่ได้มาเจอกับ ทัค คนที่เหมือนให้ชีวิตปรกติเหมือนคนทั่วไปกับ ดอว์สัน และโชคดีที่มีคนรักอย่าง อแมนด้า ที่อาจจะเหมือนชอบจัดแจงเจ้ากี้เจ้าการในบางครั้ง แต่ก็เพราะหวังให้ ดอว์สัน มีอนาคตที่ดี

      แต่คนเราอดีตมันก็มักจะตามมาหลอกหลอนเสมอ ดอว์สัน ที่เหมือนกำลังจะไปได้ดีกับหนทางชีวิตของตัวเองก็เลยเจอกับปัญหา ซึ่งจุดนี้ของหนังมันก็เหมือนเป็นการพิสูจน์อะไรหลายๆอย่างนะ รวมถึงคำว่า “ดีที่สุด” ด้วย เมื่อเราเจอคนที่เราคิดว่า “ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว” เราจะตัดสินใจเลือกทางไหนเมื่อเจอกับปัญหา และเราจะทำอะไรเพื่อเขาได้บ้าง

      ซึ่งทั้งสองคนเลือกในหนทางที่แตกต่างกัน มันก็เลยทำให้เจอกับบาดแผลในใจของทั้งคู่ ที่การเยียวยาบาดแผลนั้นอาจจะทำได้ด้วยการกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันมานานถึง 21 ปีครั้งนี้เอง

      ส่วนในพาทเรื่องราวในวัยผู้ใหญ่ที่ทั้งสองคนกลับมาเจอกับ เชื่อได้เลยว่าคนเราถ้ายังรักกันอยู่แม้จะไม่ได้เจอกันมานานเท่าไหร่ ความรู้สึกในใจมันก็ยังคุ้นเคยเหมือนเพิ่งพบกันเมื่อไม่นานนี้ มันจะมีแต่ความคิดถึงแค่ได้พูดเปิดใจสักคำกำแพงอะไรที่มีมันก็พังทลายไปทั้งหมด

      ผิดกับบางคนที่แม้เราอาจจะได้เจอกันทุกวัน แต่ยิ่งนานวันกำแพงในใจกลับยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจนไม่สามารถเชื่อมถึงกันได้เหมือนกับ อแมนด้ากับ แฟรงก์ สามีของเธอ

      ดูเรื่องราวความรักของ อแมนด้ากับดอว์สัน ก็ได้แง่คิดอย่างนึงนะ บางทีความรักมันก็เข้าใจยาก บางอย่างที่เราคิดว่ามันเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เรารัก มันอาจจะไม่ใช้หนทางที่ดีที่สุดของความรัก และบางทีผลลัพธ์ของหนทางนั้นมันอาจจะไม่ได้ดีจริงอย่างที่เราหวังไว้ก็ได้ 

      แต่การที่เราเจอ “คนที่ดีที่สุดแล้ว” เราควรจะสู้ให้ถึงที่สุดและรักษาคนๆนั้นไว้  ถ้าหัวใจของทั้งสองคนตรงกัน เพราะเราคงไม่โชคดีเหมือน อแมนด้าและดอว์สัน ทุกคน ที่มีโอกาสได้กลับมาเจอกันและเยียวยาบาดแผลในหัวใจ

      สรุปแล้ว The Best of Me อาจจะเป็นหนังรักโรแมนติกที่มีความน้ำเน่าสูง แถมยังมีความเป็นแฟนตาซีเรื่องโชคชะตาของผู้คน แต่ก็เป็นหนังที่มอบคืนวันเก่าๆที่มีความสุขให้คนดู  และอาจจะได้ย้อนระลึกถึงเรื่องราวความรักในอดีตของตัวเอง ที่อาจจะมีอะไรยังค้างคาอยู่ในใจ

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...