First time (2012)

First time (2012) “รักแรก...ตลอดไป” 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance #Angelababy#MarkChao

      สมัยก่อนเวลาฟังเทปคาสเซ็ทแล้วเพลงดังๆเพราะๆที่ใช้โปรโมทของศิลปินก็มักจะอยู่หน้า A เป็นส่วนใหญ่ เราก็มักจะกรอฟังซ้ำไปซ้ำมาฟังอยู่แค่เพลงที่เราชอบ จนในสมัยก่อนศิลปินหลายๆคนมักจะมีคำกล่าวที่ว่านักร้อง อัลบั้มนึงดังแค่เพียงสองเพลงจากสิบเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม กลายเป็นว่าเพลงที่อยู่ในเทปหน้า B กลายเป็นหมันเพลงไม่ดังเลยไม่ค่อยมีคนฟังกัน ไม่ต่างจากหนังเรื่องนี้…….

      ซ่งซือเฉียง นักศึกษาสาวสวยแต่ดันเกิดมาพร้อมกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้เธอไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรที่ทำให้เธอเหนื่อยได้ เพราะมันอาจจะอันตรายถึงชีวิต กิจวัตรประจำวันของเธอก็เลยมีแต่เรื่องซ้ำเดิมหน้าเบื่อ แถมยังต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์เพื่อตรวจโรคและรับยามากิน ซึ่งเจ้ายาที่เธอกินนี่เองมันมีผลข้างเคียงกับสมองของเธอ ทำให้ความทรงจำของเธอเริ่มเลือนรางลงเรื่อยๆ

      สิ่งที่เธอทำได้ก็คือการอัดเสียงของตัวเองลงไปในเทปบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและกงหนิงรักแรกของเธอสมัยมัธยมที่ไม่ได้พบกันมานาน เพื่อที่จะทำให้เธอไม่ลืมสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ด้วยพรมลิขิตหรือสิ่งใดก็แล้วแต่ ซือเฉียง ได้มีโอกาสพบกับ กงหนิง รักแรกของเธอโดนบังเอิญทำให้ทั้งสองคนได้กลับมารำลึกถึงความหลังในอดีตกันอีกครั้ง โดยมีเทปคาสเซ็ทเป็นตัวช่วยถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตและเชื่อมต่อความรักของทั้งสองคนในปัจจุบันอีกด้วย

      ส่วนตัวแล้วอาจจะได้ดูหนังของแองเจล่า เบบี้ มาไม่กี่เรื่องแต่ก็พอได้ยินฉายาของเธอกับสามีอย่างหวงเสี่ยวหมิงมาบ้าง ว่าเป็นคู่ผัวเมียโรบอท เอาจริงๆเท่าที่ดูผลงานของทั้งสองคนมาก็ไม่รู้สึกว่าแย่อะไรขนาดนั้นนะ แต่ก็ยอมรับว่ามีส่วนจริงตามฉายาที่คนเขาว่ามาเหมือนกัน

      หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้วก็เข้าใจได้เลยนะว่าทำไมถึงใช้ธีมเกี่ยวกับเทปคาสเซ็ท เพราะหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากเทปคาสเซ็ทม้วนนึง ที่หน้า A อาจจะมีเพลงดังเหมือนกับครึ่งแรกของหนังที่เซอร์วิสคนดูกับฉากรักกุ๊กกิ๊กหวานแหวว จนเราที่เป็นคนดูยังรู้สึกบ่นๆกับตัวเองว่าหรือหนังเรื่องนี้จะเป็นแค่หนังรักเซอร์วิสคนดูที่มีแค่ฉากฟินๆยัดใส่เข้ามาและเล่าเรื่องราวแต่ของ ซือเฉียง

      แต่พอถึงครึ่งหลังของหนังเราถึงได้เข้าใจว่าหนังไม่ใช่แค่ใช้เทปคาสเซ็ทมาช่วยเล่าเรื่อง แต่ตัวหนังเองก็เปรียบเสมือนเทปม้วนนึงที่ต้องฟังให้ครบทั้งสองหน้า เพราะเรื่องราวของด้าน B นั้นมันอาจจะไม่หอมหวานหรือสวยงามแบบที่เราเห็นในด้าน A ก็ได้

      สำหรับ ซือเฉียง แล้วด้วยอาการป่วยของเธอที่ทำให้เธอไม่สามารถทำตามความฝันได้เหมือนๆกับคนอื่น นั่นเองก็เลยเป็นสาเหตุให้เธอตกหลุมรัก กงหนิง ในทีแรกที่เป็นเด็กหนุ่มที่มีชีวิตชีวารักการเล่นดนตรีซื่อสัตย์และกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ  แต่บางทีการที่เราไม่สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้และยังรู้สึกเป็นภาระของคนอื่น ลึกๆในใจก็คงมีคำถามบางอย่างกับตัวเองเหมือนกัน และก็คงอยากที่จะทำตามความฝันของตัวเองสักครั้ง 

      ส่วน กงหนิง ตัวละครนี้ก็เหมือนคนที่มีความฝันแต่ไม่มีเป้าหมายแถมภายในใจมีแต่บาดแผลความเจ็บช้ำ กับเรื่องราวของคนในครอบครัวที่มันคอยตอกย้ำซ้ำๆทุกวันและไม่รู้ว่าจะหาทางออกแก้ไขมันได้ยังไง จนเขาได้มาเจอกับ ซือเฉียง ที่แม้เธอจะป่วยและไม่สามารถทำอะไรตามความฝันได้ กงหนิงก็เลยเหมือนเป็นตัวแทนความฝันที่ ซือเฉียง ช่วยเยียวยาแผลในใจและจุดไฟฝันให้เขามีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตอีกครั้ง

      คนที่เหมือนเป็นโชคชะตาหรือ destiny ของทั้งสองคนก็คงจะเป็นแม่ของ ซือเฉียง ที่เป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเพราะอยากจะให้ลูกมีความสุขกับอดีตที่ลูกยังยึดติดเอาไว้แม้มันจะเป็นเพียงคำหลอกลวง กับหนังเรื่องนี้แล้วมันกลายเป็นว่าคนที่ป่วยทางกายบางที่ยังไม่น่าหวงเท่าคนที่เจ็บป่วยทางใจแล้วทำร้ายตัวเองและครอบครัว 

      เหมือนกับพ่อของ กงหนิง ที่เสียใจกับการจากไปของภรรยาก็เลยเอาแต่ดื่มเหล้าทำร้านตัวเองและทำร้ายความรู้สึกของลูกอย่างไม่ตั้งใจ กลับกลายเป็นคนที่เจ็บปวดทางกายอย่าง ซือเฉียง ที่เป็นคนเยียวยาบาดแผลในใจของทุกคน

      สรุปแล้ว First time เป็นหนังรักที่ถ้าดูเพียงหน้า A อาจจะดูเหมือนหนังรักกลวงๆ แต่เมื่อถึงหน้า B หนังกลับสะท้อนเรื่องราวดีๆถึงการก้าวเดินต่อไปหลังจากการสูญเสียคนที่เรารัก

ปล. หนังเรื่องนี้ สร้างดัดแปลงจากหนังเกาหลีเรื่อง …ing 2003 ลิขิตฟ้า รักนิรัดร์ ที่คู่พระนางคือ อิมซูจอง กับ คิมแรวอน แสดง (แอดยังไม่ได้ดูไว้ดูเมื่อไหร่คงได้เขียนถึง)

#MovieReview #รีวิวหนัง