The Belko Experiment (2016)

The Belko Experiment (2016) ปฏิบัติการ พนักงานดีเดือด
#ปีนรั้วรีวิว #Thriller

      เช้าวันทำงานที่ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยปรกติทุกอย่าง แถมบริษัทก็เพิ่งต้อนรับพนักงานคนใหม่อย่าง ดานี่ เข้ามาทำงาน แต่จู่ๆพนักงานทุกคนในบริษัทก็ต้องอึ้งแดก เมื่อการสื่อสารทุกอย่างภายในตึกถูกตัดขาดและมีเสียงตามสายทักทายทุกคนในตึกนั้นแล้วพูดว่า

      ตอนนี้ภายในตึกมีคนอยู่ 80 คนและคนส่วนใหญ่ในตึกนี้จะต้องตาย คุณจะต้องทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย งานแรกของคุณก็คือ ต้องมีคน 2 คนตายภายในครึ่งชั่วโมงนี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเจอกับผลลัพธ์ที่คุณอาจจะไม่ชอบใจนักตามมา หลังจากนั้นทุกประตูหน้าต่าง ทุกทางเข้าออกจากตึกแห่งนั้นก็ถูกปิดลงทุกทาง

จนคนในตึกเริ่มตื่นกลัวอยากที่จะรู้คำตอบ ซึ่งหน้าที่รวบรวมสติของทุกคนก็เป็นของ นอริส หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการที่พยายามกล่อมให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ซึ่งก็ดูจะได้ผลในตอนแรกซึ่งหลายคนเข้าใจว่าอาจจะมีคนพยายามแกล้งพวกเขา แต่เมื่อครบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่มี 2 ศพตามคำสั่ง ความโกลาหลที่ไม่มีใครคาดคิดก็บังเกิดขึ้นจนได้

      หนังเหมือนเอา BR มาย่อส่วนใส่คนลงมาในพื้นที่จำกัดมากขึ้น เรียกว่าเหมือนหยิบเอาวัตถุดิบเดิมมาปรุงใหม่แม้รสชาติอาจจะพอใช้ได้ แต่ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาจนเป็นที่จดจำได้ ประเด็นต่างๆในหนังก็เหมือนยังไม่ได้ถูกขับออกมาจนชัดเจนมากนัก แต่ถ้าจะให้เปรียบประเด็นในหนังเรื่องนี้ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นต่างขั้วกับหนังเรื่อง Circle (2015) เพราะถ้า Circle เป็นตัวแทนของหนังที่เลือกฆ่าคนด้วยวิธีการประชาธิปไตย Belko Experiment ก็คงเป็นตัวแทนของการเลือกฆ่าคนด้วยระบอบเผด็จการ

      เพราะใน Circle นั้นการที่ใครจะตายเป็นรายต่อไป ทำได้ด้วยการใช้เสียงโหวตของทุกคน แต่กับเรื่องนี้หลังจากที่ นอริส และพรรคพวกสามารถเข้าถึงอาวุธได้แล้ว พวกเขาก็จัดการรวมอำนาจไว้และตัดสินใจด้วยตัวเองว่าใครควรจะอยู่หรือจะตาย
 

ซึ่งย่อมที่จะมีคนไม่เห็นด้วยอยู่แล้วซึ่งก็คือ ไมค์ มิช ที่คิดว่าไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าใครควรตาย แต่ถามว่า ไมค์มีทางเลือกอื่นๆเพื่อที่จะเป็นทางออกที่ดีกว่าไหม ไมค์ ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ ซึ่งในส่วนนี้เองถ้าเรามองว่าสถานการณ์นี้ เป็นเรื่องคับขันและบีบคั้นให้ต้องตัดสินใจ บางมุมมองแบบเห็นแก่ตัวเราอาจจะเห็นด้วยกัน นอริส ที่เลือกใช้วิธีนี้ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็ตายกันหมดอยู่ดี แต่ถ้ามองด้วยความเป็นธรรมเราก็คงไม่สามารถเห็นด้วยได้กับ นอริส เหมือนๆกับ ไมค์ นั่นแหละ

      ถ้าว่ากันด้วยความโหดเลือดสาดหรือระทึกขวัญแล้วเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ประเคนให้กับคนดูมากมายอะไรนัก อาจจะมีความกดดันในช่วงต้นที่ตัวละครขัดแย้งกันทางความคิดและพยายามรักษาสถานการณ์ไม่ให้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน แต่หลังจากนั้นหนังก็ฉายภาพความโกลาหลการไล่ฆ่ากัน การพยายามเอาตัวรอดโดยที่ไม่ได้สนใจว่าใครเคยเป็นคนรู้จักหรือเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน

      สรุปแล้ว Belko Experiment อาจจะไม่ถึงกับเป็นหนังระทึกขวัญที่ ท็อปฟอร์ม หรือน่าจะเป็นที่จดจำ แต่หนังก็น่าจะสามารถตอบโจทย์ ความระทึกใจ กับการลุ้นเอาใจช่วยตัวละครให้เอาชีวิตรอดออกมาให้ได้ ซึ่งตอนจบของหนังก็เหมือนทิ้งปมเอาไว้เผื่อมีไอเดียในการต่อเรื่องราวเหมือนกัน

#MovieReview #รีวิวหนัง