Compassion (2014) aka Cheon beoneul bulreodo 천 번을 불러도 ( Korean Movie )
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #หนังดราม่า #หนังครอบครัว
“การสารภาพเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการรักษา จงกล้าที่จะสารภาพมันออกมา”
ประโยคสรุปปิดท้ายของหนังเกาหลีน้ำดีที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่องนี้ เพราะคนเราถ้าเกิดความทุกข์แล้วไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครหรือไม่มีใครพร้อมที่จะรับฟัง ก็คงได้แต่เก็บไว้คนเดียวคิดอะไรตัดสินใจทำอะไรตามลำพัง จริงแล้วบางครั้งคนที่มีความทุกข์ ก็ไม่ได้ต้องการความเห็นหรือคำปรึกษาเสมอไป แค่มีคนรีบฟังปัญหาแล้วปลอบว่า "ไม่เป็นไรนะ...เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น" เพียงเท่านี้ก็คงทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างแล้ว
โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเกิดเหตุการณ์นักเรียนหญิงที่ชื่อ ซงจินอา กระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะถูกเพื่อนๆในโรงเรียนแบนไม่มีใครคบ แต่แทนที่ทางโรงเรียนจะสืบหาต้นตอของปัญหา ว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร กลับเลือกที่จะปิดข่าวเงียบและทำเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องขึ้น
จองฮานา (Lee Chung-Mi)
เด็กสาวที่มีปัญหาครอบครัว พ่อแม่เอาแต่ทะเลาะตบตีกันให้เห็นทุกวัน
จนวันหนึ่งเธอทนกับเรื่องในครอบครัวไม่ไหว แต่กลับไปเจอเรื่องเลวร้ายกว่าเมื่อ ฮานา ถูกรุ่นพี่หลอกออกไปข้างนอก จนเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศแล้วยังถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล เพื่อที่จะให้ ฮานา หาเงินมาให้ ไม่อย่างนั้นจะปล่อยคลิปออกไป ด้วยความที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครเมื่อพ่อแม่ก็เอาแต่ทะเลาะกัน ทางเลือกเดียวที่ ฮานา คิดได้ก็คือต้องยอมทำตามคำสั่งพวกรุ่นพี่เท่านั้น
สารภาพตามตรงเลยตอนดูไปสัก 20 นาทีแรกเกือบปิดเปลี่ยนไปดูเรื่องอื่นแล้ว แต่ก็รวบรวมความกล้า(ขนาดนั้นเลย)พอได้ดูต่ออีกหน่อย ก็รู้สึกเลยว่าถ้าตัดสินใจปิดคงเสียดายแย่ ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะหาข้อดีด้านความบันเทิงได้น้อยมากก็จริง แต่อยากจะบอกว่าหนังมันดีงามมากจริงๆ ที่หยิบเอาแง่มุมของเด็กที่โดนกลั่นแกล้งโดนบูลลี่ (Bullying) ในโรงเรียนจนบางคนทนไม่ไหวถึงกับฆ่าตัวตายมาเล่า
ส่วนที่ดูจะเป็นแสงสว่างในหนังเรื่องนี้ก็คือ ครูคิมซังแทและแทฮยอง ครูคิม นั้นเป็นคนเอาใจใส่ลูกศิษย์ค่อยให้ความช่วยเหลือให้คำปรึกษา ส่วน แทฮยอง ก็คือคนที่ครูคิมเคยช่วยเหลือมาก่อนหน้า และได้ส่งต่อความช่วยเหลือแบบเดียวกันกับที่ตัวเองเคยได้รับมา
หนังเรื่องนี้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างนะ บางครั้งจุดเริ่มต้นของปัญหาจริงๆ อาจจะไม่ได้มาจากภายนอกทั้งหมด บางครั้งที่เด็กออกไปหาเพื่อนคบเพื่อนไม่ดี บางครั้งปัญหามันเริ่มมาจากครอบครัว ที่ค่อยๆผลักเด็กให้ออกห่างจากบ้านไปเจอกับปัญหาภายนอก แล้วพอเด็กมีปัญหาก็ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาพูดคุยกับใคร ที่บ้านก็ไม่รู้จะรับฟังพวกเขาไหม ส่วนคนที่รับฟังก็ดันมีแต่เด็กที่มีปัญหาเช่นเดียวกัน หากไปเจอคนที่ก้าวข้าวปัญหามาได้แต่แรกแบบ แทฮยอง ก็ดีไป แต่หากไปเจอกับคนที่ข้ามปัญหาไม่พ้นเหมือนกัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีปัญหามันก็เลยเถิดไปไกลแล้ว
การที่จะรับมือกับปัญหามันก็ต้องใช้ความกล้ามากๆ ซึ่งคนที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์คงไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้ไหม แต่ถ้ามีคนคอยจับมือคอยประคองอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจกัน เหมือนกับที่ ฮานาและแทฮยอง ได้รับ หลายๆคนที่เจอปัญหาแบบเดียวกันนี้ก็น่าจะผ่านไปได้เช่นเดียวกัน
สรุปแล้วหนัง Compassion (2014) เรื่องนี้คงบอกได้ว่าหนังไม่สนุกบันเทิงนะ เป็นหนังดราม่าที่ไม่บดขยี้ความโศกเศร้าเสียใจ ความสะเทือนใจ แต่เป็นหนังที่ดูจบแล้วคนดูจะได้แง่คิด มุมมองอะไรหลายๆอย่างกลับมาแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องปัญหาครอบครัวที่พ่อแม่อาจมองแต่มุมปัญหาของผู้ใหญ่ จนอาจลืมไปว่าปัญหาของผู้ใหญ่มันไปกระทบกับเด็กๆยังไงบ้าง
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Compassion (2014)
#MovieReview #รีวิวหนัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น