วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

Morning Glory (2010)

Morning Glory (2010) ยำข่าวเช้ากู้เรตติ้ง
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Drama #Romance
      ถ้าพูดถึงวงการโทรทัศน์แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคงไม่พ้นเรตติ้งแน่นอน เพราะการที่รายการทีวีจะอยู่ได้ มีรายได้จากการโฆษณาก็ต้องได้รับความนิยมจากคนดู ซึ่งหน้าที่นี้ต้องตกมาเป็นของ เบคกี้ (Rachel McAdams) โปรดิวเซอร์รายการข่าวเช้าที่เพิ่งโดนให้ออกจากงาน กลายเป็นว่าเธอต้องมาเตะฝุ่นเริ่มหางานใหม่ 

      และแล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อสถานีโทรทัศน์ IBS ให้โอกาสเธอเข้ามาทำงานรายการข่าวเช้า day break ที่เรตติ้งอยู่ในระดับหายนะ รายการไม่มีคนดูและเพื่อนร่วมการก็ทำกันซังกะตายไปวันๆ ภารกิจแรกในการกู้ชีพรายการก็คือการเปลี่ยนตัวพิธีกรด้วยการเชิญ ไมค์ โพรมรอย (Harrison Ford) นักข่าวอาวุโส

      ที่มีประสบการณ์โชกโชนและยังเป็นเหมือนไอดอลของ เบคกี้ ด้วย แต่ไมค์ดันเป็นคนหยิ่งอุดร….เอ้ย หยิ่งยโสและทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ เบคกี้ ก็เลยต้องพยายามงัดทุกกระบวนท่ามาเพื่อปราบพยศม้าแก่อย่าง ไมค์ และกู้เรตติ้งรายการข่าวก่อนที่เธอจะได้กลับไปวิจัยฝุ่นอีกรอบนึง

      ยุคนึงสมัยนึงน่าจะช่วง 90s ถึงต้น 2000s น่าจะเป็นยุคทองของหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้เลยนะ มีออกมาให้ดูกันเยอะมากๆ ดาราหลายๆคนก็แจ้งเกิดโด่งดังจากหนังรักอย่าง จูเลีย โรเบิร์ต , เรเน่ เซลเวเกอร์ , ดรูว์ แบรี่มอร์ แต่กลายเป็นว่าพอพ้นช่วงนั้นมากระแสหนังรักก็จางหายลงไปเยอะดาราสายหนังรักหลายๆคนในยุคนี้ก็เลยไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร

      อย่าง แอนน์ แฮธาเวย์ ที่เคยถูกยกว่าจะดำเนินรอยตาม จูเลีย โรเบิร์ต หรือนางเอกของเรื่องนี้ ราเชล แมคอดัมส์ ที่ผลงานส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหนังรัก ถ้าสองคนนี้ได้ไปอยู่ในยุคหนังรักเฟื่องฟูมีโอกาสได้เล่นหนังรักดีๆในยุคนั้น คงมีโอกาสดังประสบความสำเร็จมากกว่านี้แน่ๆ

      ส่วนเนื้อหาของเรื่องนี้ไม่รู้จะเรียกว่าหนังรักหรือหนังครอบครัวดีนะ เพราะถึงแม้ว่าจะมีเรื่องราวของความรักด้วยแต่ธีมหลักของหนังก็เน้นไปที่การแก้วิกฤติรายการข่าวและความสัมพันธ์ของ เบคกี้และไมค์ ส่วนเรื่องความรักของ เบคกี้กับอดัม นี่เนื้อหาเบาบางมาก

      ความสัมพันธ์ของ เบคกี้กับไมค์ แม้จะเป็นไปในแบบเพื่อนร่วมงานที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา เพราะ ไมค์ ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือนัก แต่พอนานไป จากเพื่อนร่วมงาน เบคกี้กับไมค์ ก็กลายเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนร่วมงานก็กลายเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันที่ช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรค และ ไมค์ ก็ยังใช้ประสบการณ์การทำงานร่วมถึงความผิดพลาดในอดีตเตือนสติ เบคกี้ ไม่ให้ซ้ำรอยตนเองอีกด้วย

      อีกส่วนหนึ่งที่หนังแทรกเข้ามาเป็นระยะก็คือเรื่องของการที่เราทุ่มเทให้กับงานจนสุดตัวบางครั้งกว่าที่เราจะรู้ตัวมันก็ทำลายเราร่วมถึงคนรอบข้างไปแล้ว เหมือนกับที่ ไมค์ ต้องกลายมาเป็นคนโดดเดี่ยวและเข้ากับใครไม่ค่อยได้ หรือ เบคกี้ ที่มัวแต่สนใจกับการเพิ่มเรตติ้งให้รายการจนบางครั้งที่อยู่กับ อดัม ก็เหมือนเธออยู่แต่ในโลกของตัวเอง

      จนเคยตัดสินใจหันหลังให้ความรักเพราะไม่อยากจะมารู้สึกผิดที่ตัวเองมัวแต่สนใจงาน เลยกลายเป็นว่า เบคกี้ ตัดสินใจเลือกงานเพียงอย่างเดียวโดยไม่คิดจัดสรรเวลาส่วนตัว แต่สุดท้ายคนที่ยื่นมือเข้ามาให้คำแนะนำก็คือ ไมค์ นี่แหละที่เคยมีประสบการณ์ความผิดพลาดมาก่อน

      สรุปแล้วหนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับที่จะเปิดดูเพื่อคอยเตือนใจให้ตัวเองว่า…..ทุ่มเทกับงานได้แต่ก็อย่าลืมให้เวลากับคนรักหรือครอบครัวด้วยเมื่อจัดสรรลงตัวความสุขก็จะตามมาเอง

#MovieReview #รีวิวหนัง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...