Far and Away (1992)

Far and Away (1992) ไกลเพียงใดก็จะไปให้ถึงฝัน
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romantic #Adventure

      เวลาที่ได้ดูหนังที่สร้างพลังด้านบวกให้ชีวิตมันก็รู้สึกดีนะเหมือนได้เติมไฟให้ชีวิตบ้าง   อย่างหนังเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับความใฝ่ฝันของชีวิตคนในยุคบุกเบิกอเมริกาที่ต้องดิ้นรนย้ายถิ่นฐานเพื่อหาสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้ชีวิต   ซึ่งถ้าใครสำหรับหลายๆคนแล้วเอาจริงๆแค่ย้ายบ้านหรือย้ายโรงเรียนย้ายที่ทำงานไปยู่สังคมใหม่ๆก็ต้องปรับตัวกันยกใหญ่แล้ว

      แต่ถ้าถึงขนาดต้องทิ้งถิ่นกำเนิดออกเดินทางเพื่อไปต่างประเทศวัดดวงเอาข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็คงต้องใช้แรงใจใช้ความหนักแน่นมากพอสมควรในการฝ่าฟันไปให้ถึงฝันที่ตัวเองวาดไว้

      เรื่องราวของครอบครัวชาวไอร์แลนด์  เมื่อ โจ ดอนเนลี่ ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตลงและในขณะที่กำลังเคลื่อนศพพ่อ   เพื่อนำไปฝังยังบ้านที่ตัวเองอาศัยมาตั้งแต่เกิดยังถูกเผาไล่ที่เพราะว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า โจเซฟ ลูกชายคนเล็กของบ้านจึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าเป็นไงเป็นกันจะบุกไปจัดการกับ ดาเนียล คริสตี้ เจ้าของที่ดินหน้าเลือดที่เป็นสาเหตุให้พ่อของตัวเองต้องตายให้ได้

      แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นเพียงแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาคนนึง   ก็เลยไม่มีปัญญาจะไปทำอะไรใครได้ แถมยังถูกท้าให้ดวลปืนกับ สตีเฟ่น ชายหนุ่มที่ทำงานให้กับ คริสตี้ และเป็นคนสั่งให้เผาบ้านของ โจเซฟ อีกด้วย  แต่จะด้วยความกลัว ความหลงใหลในตัว แชนน่อน  ลูกสาวของ คริสตี้ ที่เป็นเด็กหัวสมัยใหม่ที่ชื่นชอบอเมริกา หรือด้วยโชคชะตาก็แล้วแต่ 

      โจเซฟ ก็เลือกที่จะตัดสินใจหนีออกมาพร้อมกับ แชนน่อน   เพื่อเดินทางจากไอร์แลนด์ไปเสี่ยงโชคยังอเมริกา   พร้อมกับพกความใฝ่ฝันไปเต็มกระเป๋าว่าจะมีที่ดินสักผืนเป็นของตัวเองและเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังดินแดนแห่งเสรีภาพ

      ทอม ครูซ กับ นิโคล คิดแมน เป็นคู่ที่แสดงได้ลงตัวเคมีเข้ากันมากๆเลยนะ ก็ไม่แปลกใจเลยนะที่สองคนจะกลายมาเป็นคู่รักกันจนได้แต่งงานกันจริงๆแม้สุดท้ายจะสวมคอนเวิร์สแยกทางกันก็เถอะ
      
      ส่วนเนื้อเรื่องในหนังก็เล่าการผจญภัยของทั้งคู่ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากเรือก็มีความวุ่นวายทันที ไม่ต่างจากคนต่างจังหวัดเข้ากรุงใหม่ๆนั่นแหละ ที่ต้องมีผจญเสือสิงห์ทั้งหลายซึ้งก็ยังพาตัวเองรอดมาได้ในตอนแรก ด้วยความช่วยเหลือของ ดันตี้ ดัฟฟ์ ชาวไอร์แลนด์ที่มาตั้งรกรากในอเมริกาอยู่ก่อนแล้วจนขยายอิทธิพลแถบนั้นไว้หมด หนุ่มชาวไร่กับลูกคุณหนูก็เลยต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกันและทำงานเพื่อหาเงินเตรียมตัวเดินทาง  เพื่อไปจับจองที่ดินที่ รัฐโอกลาโฮม่า

      แต่ความใฝ่ฝันความตั้งใจมันก็มาพร้อมกับบทพิสูจน์ความหนักแน่นเช่นกัน เมื่อ โจเซฟ ที่ตั้งใจอยากจะมาจับจองที่ดินซักผืนนั้น กำลังไปได้สวยกับการต่อยมวยให้กับ ดัฟฟ์ จนหลงระเริงไปกับชื่อเสียงที่ได้มา

      สวนทางกับ แชนน่อน ที่เป็นคุณหนูโลกสวยเบื่อขนบธรรมเนียมดั่งเดิมอยากมาแสวงหาอิสรภาพ แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนตัวเองจากลูกคุณหนูกลายมาเป็นสาวโรงงานสู้ชีวิตและยังไม่คิดละทิ้งความฝัน แม้ว่าหนทางที่จะไปตามความฝันเหมือนจะยิ่งทอดยาวออกไปไกลกว่าเดิมอีก ซึ่งนี่เองที่เป็นสิ่งที่หลายคนที่มีความฝันจะต้องพิสูจน์ว่าจะก้าวเดินต่อไปหรือจะหยุดเพียงแค่เท่านี้

      หนังเป็นผลงานการกำกับของ รอน ฮาเวิร์ด ผลที่ออกมาเรียกได้ว่าเป็นหนังสองชั่วโมงกว่าที่ สนุก บันเทิง ว่าง่ายๆเป็นหนังที่ดูเพลินสองชั่วโมงกว่าของหนังไม่รู้สึกว่านานเลย ถึงเรื่องราวดราม่าต่างๆในหนังอาจจะไม่ได้ขับเน้นจนเด่นชัดขึ้นมามากมาย เพราะโดนกลบด้วยการเซอร์วิสคู่พระนางและความคอมเมดี้ของหนัง

      แต่ก็ทำออกมาลงตัวไม่รู้สึกว่าเนื้อหามันเบาเกินไปจนกลวง เพราะแก่นของหนังในเรื่องการแสวงหาอิสระภาพและอพยพย้ายถิ่นของผู้คน เพื่อตามความฝันเพื่อจะมีที่ดินสักผืนเป็นของตัวเองก็ยังคงอยู่และครบถ้วนในใจความของมัน

      สรุปแล้วเป็นหนังที่แรงบันดาลใจในเรื่องที่เราอาจจะไม่อินหรือใกล้ตัวเรามากนัก เพราะมันเป็นคนฝันของผู้คนที่แตกต่างยุคสมัยกัน แต่เราก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังความรู้สึกความหวังของผู้คนในยุคสมัยนั้น ที่เป็นพลังด้านบวกให้กับคนในปัจจุบันให้ต่อสู้ชวิตกันต่อไป

#MovieReview #รีวิวหนัง