วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

Hear Me (2009)

Hear Me (2009) สื่อรักภาษากาย Taiwan Movie
#ปีนรั้วรีวิว #Romantic #Comedy #Drama 
      จะเป็นยังไงถ้าคุณเกิดตกหลุมรักคนที่สื่อสารกันลำบากและแทบไม่รู้เรื่องเลย   เป็นคนต่างชาติต่างภาษาก็คงจะลำบากน่าดูแล้ว   แต่ถ้าคุณตกหลุมรักคนที่หูหนวกแล้วก็เป็นใบ้ด้วย   คุณจะยอมไปเรียนภาษามือเพื่อให้ได้ทำความรู้จักพูดคุยหรือจะสามารถรัก ดูแล กันไปได้ตลอดไหม  หนังรักเรื่องนี้อาจจะมีคำตอบให้คุณได้

      หัวเทียนกั้ว ลูกชายร้านข้าวกล่องที่คอยตระเวนขี่มอ’ไซค์คอยส่งข้าวที่ลูกค้าสั่งตามสถานที่ต่างๆ ดันเกิดไปตกหลุมรักกับ เสี่ยวเผิง น้องสาวของ หยางหยาง ที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ   แต่ทั้งคู่นั้นโชคร้ายที่มีความไม่ปรกติทางร่างกายทำให้ หูหนวกและเป็นใบ้


      แต่เมื่อคนมันรักไปแล้ว เทียนกั้ว ก็พยายามเรียนภาษามือและพยายามหาทางเข้าใกล้ ทักทาย ทำความรู้จักจนทั้งสองคนเริ่มเปิดใจและสนิทกันมากขึ้น   แต่ความรักของทั้งคู่ก็ไม่ราบลื่นขนาดนั้นเพราะด้วยความแตกต่างหลายๆอย่าง   การที่ยังไม่รู้ว่าครอบครัวของ เทียนกั้ว จะยอมรับได้ไหม และคนที่สำคัญที่สุดก็คือ หยางหยาง พี่สาวที่ เสี่ยวเผิง คอยดูแลและเป็นห่วงมาตลอด
      เป็นหนังที่ดูจบแล้วมีความรู้สึกทั้งชอบและไม่ชอบตอนจบในแบบที่หนังใช้นะ   คือความรู้สึกนึงมันก็ โอเคดี ฟิน แฮปปี้เอนดิ้ง   แต่อีกส่วนนึงมันก็เหมือนรู้สึกเฟลนิดๆว่ามันสวนทางกับสิ่งที่หนังพยายามเสนอมาทั้งเรื่อง ในการยอมรับคนที่มีความไม่ปรกติทางร่างกายให้เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิต   หรือถ้าจะมองอีกแง่นึงหนังอาจจะคิดว่าทำสิ่งที่พยายามสื่อออกมาสำเร็จแล้ว   ขอลงเอยแบบแฮปปี้ ฟินๆสักหน่อยล่ะมั้ง   แต่เอาจริงๆมันก็เรื่องเล็กน้อยมากๆไม่ได้อะไรไม่ถึงกับรู้สึกไม่ดีหรือขัดใจอะไร   ถ้าเทียบกับความดีงามที่นำเสนอมาทั้งเรื่อง
      นักแสดงหลักในเรื่องทั้งสามคน ( เอ็ดดี้ เผิง , ไอวี่ เฉิน , เฉินเหยียนซี ) ก็แสดงได้ดีทั้งสามคนเลยนะ   ใช้ภาษามือได้ค่อนข้างคล่องแคล่ว ถึงแม้ว่าเราคนดูจะไม่รู้ความหมายในการใช้ภาษามือก็เถอะ แต่มองแล้วก็ดูเป็นธรรมชาติ สามารถเชื่อได้ว่าเป็นคนที่ไม่ได้ยินและพูดไม่ได้จริงๆ    ประเด็นที่ค่อนข้างถูกใจในหนังก็คือการที่มุมมองจากคนปรกติ   อาจจะเป็นห่วงมองคนเหล่านี้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อมีข้อจำกัดทางร่างกาย   แต่หนังก็พยายามเสนอว่าจริงแล้วคนเหล่านี้มีความสามารถและก็มีความพยายามไม่น้อยกว่าคนปรกติทั่วไป
       หยางหยาง ก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่มีความฝันอยากจะลงแข่งขันโอลิมปิก ถึงแม้จะมีอุปสรรคยังไงก็ยังสามารถลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง และเพื่อจะพิสูจน์ให้ เสี่ยวเผิง น้องสาวเห็นว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตตามลำพังได้    แถมยังยังมีภาพบรรยากาศเก่าๆแทรกมาเซอร์วิสนิดหน่อย    อย่างการที่ เทียนกั้ว ขออีเมล์ เสี่ยวเผิง   เพื่อจะได้คุย MSN กัน มีภาพการออนไลน์ msn รอให้อีกฝ่ายตอบ   การใช้อีเมล์เป็นช่องทางสื่อสารกัน ทั้งเซอร์วิสและดักแก่กันไปในตัวสำหรับวัยรุ่นยุค 90s

      สรุปแล้วแม้เรื่องนี้จะเป็นหนังรักฟินๆ มีมุกตลกให้ฮา มีเซอร์วิสดักแก่   แต่ก็มีประเด็นรองประเด็นเสริมที่มีสาระไม่ใช่แค่หนังรักโรแมนติกไก่กา   ถ้าหากเป็นคนชอบหนังโรแมนติดบรรยากาศเอเชียเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ไม่ควรพลาด


#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...