วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

My Brilliant Life (2014)

My Brilliant Life (2014) Korean Movie 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #หนังเกาหลี #หนังดราม่า#My_Brilliant_Life
      คนที่กำลังจะเป็นพ่อแม่คนสิ่งที่เป็นกังวลที่สุดคงไม่พ้นเรื่อง สุขภาพ ร่างกาย ของลูกที่กำลังจะเกิดมา พ่อแม่ทุกคนก็คงอยากมีลูกที่เกิดมาสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ถ้าเกิดลูกที่เกิดมาไม่สมบูรณ์พร้อมก็คงเป็นภาระที่หนักหนาของทั้งพ่อและแม่ที่จะต้องดูแลเด็กที่เกิดขึ้นมา แล้วยังต้องพยายามประคับประคองชีวิตคู่อีกด้วย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อมีปัญหาขึ้นมาในครอบครัวถ้าบางครั้งจิตใจที่ไม่เข้มแข็งหรือไม่รักกันมากพอ ก็อาจจะมีใครคนใดคนหนึ่งหันหลังให้กันก็เป็นไปได้

      อารึม (Seong-mok Choเด็กหนุ่ม อายุ 17 ปี ที่มีร่างกายแก่เท่ากับคนอายุ 80 ปี เพราะป่วยเป็นโรคชรา   ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย 1 ต่อ 30 ล้านคนเลยทีเดียว   แต่ อารึม ก็ยังโชคดีที่มี พ่อและแม่อย่าง มิรา (Hye-Kyo Songกับ แดซู (Dong-won Gangคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันตั้งแต่อายุ 17 โดยที่ยังเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ  เพราะว่า มิรา เกิดตั้งท้องขึ้นมา และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ แดซู ต้องทะเลาะกับพ่อแล้วต้องออกจากบ้านมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ทั้ง มิรา กับ แดซู จะไม่ได้ร่ำรวยอะไร มิรา เองก็เป็นสาวโรงงานและ แดซู ก็ขับแท็กซี่ แต่ก็พยายามที่จะดูแล อารึม ให้ดีที่สุด   เพราะว่าทั้งสามคนมีเวลาให้อยู่ร่วมกันได้อีกไม่มากแล้
      หลังดูเรื่องนี้จบก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนัง ดราม่า ที่ไม่ขาย ความดราม่า คือถึงแม่หนังจะกล่าวถึงการที่ครอบครัวกำลังจะเกิดการสูญเสียก็จริง  แต่เมื่อเรารู้และมันก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เวลาที่เหลืออยู่ก็คงไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งโศกเศร้าเสียใจอะไร  แต่เวลาที่เหลืออยู่ควรจะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยทำและตักตวงความสุขให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ อย่าง อารึม ที่ยังไม่เคยกินเหล้าเลยสักครั้งก็บอกให้ ลุงจาง (Il-seob Baekแอบเอา โซจู มาให้กิน หรือด้วยอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นวัยที่น่าจะได้รู้รสชาติของการมีความรักและการอกหักสักครั้งในชีวิต   ตัว แดซู ก็ได้กลับไปหาพ่อของตัวเองอีกครั้ง  เพราะว่าตอนนี้ที่ตัวเองได้เป็นพ่อคนแล้ว  และกำลังจะต้องสูญเสียลูกไป  ก็เลยทำให้เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อมากขึ้น 
      ฉากนี้ก็เป็นอีกฉากนึงที่ชอบนะจริงๆเป็นฉากที่ธรรมดาไม่มีอะไรมาก พูดกันก็น้อยตามประสาลูกชายกับพ่อ แต่หนังก็สื่อสารออกมาได้ดีนะ  คนรักกันคนในครอบครัวเดียวกันโกรธกันเมื่อเวลาผ่านไป   บางทีแค่มาเจอหน้ากันกำแพงที่มีมันก็พังทลายหมดแล้ว 

      สรุปแล้วเรื่องนี้ก็เป็นหนังดราม่าการสูญเสียที่ไม่ฟูมฟาย แต่บอกว่ายังไงวันหนึ่งมันก็ต้องมาถึง สู้ทำอะไรที่อยากทำหรือทำอะไรให้คนที่รักกันตอนที่ยังมีเวลาอยู่ดีกว่า


ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : My Brilliant Life (2014)

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...