SOCIAL PHOBIA (2014)
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Thriller #social #หนังเกาหลี #หนังระทึกขวัญ
ยุคสมัยก่อนที่คนเราอยากจะเขียนถึงเรื่องอะไรต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หรืออยากจะระบายอะไรก็มักจะเขียนลงไดอารี่ แถมยังต้องเก็บเป็นความลับเป็นเรื่องส่วนตัว ผิดจากยุค Social Network ในปัจจุบันที่พบเจอเรื่องราวอะไรมา อยากระบายอะไร อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็สามารถพิมพ์ลงไปได้ทันที แถมมันยังไม่เป็นความลับอีกด้วย แล้วก็ความรวดเร็วฉับไวนี่แหละที่ทำให้คนสมัยนี้บางทีก็ขาดการยับยั้งชั่งใจในการแสดงความคิดเห็น
เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนกว่าจะเขียนลงได้อารี่ได้ก็ตกผลึกทางความคิดได้แล้วระดับนึง หรือถึงเขียนลงไปแล้วก็ไม่เกิดผลดีหรือเสียกับใคร ตราบใดที่มันยังไม่ถูกนำไปเผยแพร่ ต่างจากเครื่องมือในปัจจุบันที่รู้สึกแบบไหนปุ๊บก็พิมพ์ลงไปทันที โดยที่บางครั้งอาจจะไม่ได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา
เรื่องราวในโลกอินเตอร์เน็ตเกิดความวุ่นวายขึ่นเมื่อ เรน่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนึงทวิตข้อความดูหมิ่นผู้เสียชีวิตที่เป็นทหารคนนึงหลายครั้ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบนโลกโซเชี่ยล จน ยงมิน จีอุง และยางเก ที่ทำช่องถ่ายทอดสดบนอินเตอร์เน็ต และกลุ่มเพื่อนๆ รวมตัวกันเพื่อที่จะออกตามล่าหาตัวตนของ เรน่า เมื่อทั้งหมดรู้ถึงตัวตนของ เรน่า จึงบุกไปถ่ายทอดสดรายการถึงที่พักของเขาหรือเธอ แต่เมื่อไปถึงกลับกลายเป็นว่าเธอได้แขวนคอฆ่าตัวตายไปก่อนแล้ว พวกเขาไม่คิดว่า เรน่า จะฆ่าตัวตาย แต่กลับคิดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมโดยใครบางคนมากกว่า ทั้งหมดก็เลยทำตัวเป็นนักสืบโซเชี่ยลเพื่อหาข้อมูลว่าจริงๆแล้วใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
**
ดูเรื่องนี้จบแล้วก็นึกถึงในเมืองไทยตอนนี้เลย ซึ่งดูแล้วปัญหาเกรียนคีย์บอร์ดคงไม่ได้มีแต่ประเทศไทยแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดหนังเกาหลีเรื่องนี้ขึ้นมา และปัญหาก็ดูจะเหมือนๆกันเป๊ะเลย คือการแสดงความเห็นของผู้คนที่ขาดการคัดกรอง ขาดการยับยั้งชังใจ หรือปล่อยตัวเองไปตามกระแสของข่าวลือต่างๆไปเรื่อย จนสุดท้ายก็นำมาซึ่งความตายของ เรน่า และการแสดงความเห็นบนโลกอินเตอร์เน็ตหลายครั้งยังส่งผลถึงชีวิตจริงอีกด้วย
เหมือนกับที่ จีอุง และ ยงมิน ที่ทั้งสองเป็นนักเรียนตำรวจ แต่อนาคตการเป็นตำรวจก็ต้องสั่นคลอนเพราะการแสดงความเห็นของตัวเอง แล้วยังมีเรื่องของเพื่อนบางคนในกลุ่มที่จริงๆแล้วรับรู้ว่าเรื่องราวจริงๆมันเกิดอะไรขึ้นแถมไม่ใช่ว่านิ่งเงียบไปเฉยๆ แต่กลับพาเพื่อนๆที่ไม่รู้เรื่องราวมาซวยเข้าไปด้วยอีกเพราะความแค้นส่วนตัวที่มี
หลังจากดูเรื่องนี้จบแล้วก็ได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะตัว เรน่า เองที่ก็มีปัญหาในการอยู่ร่วมกับคนอื่นเพราะเป็นคนแบบ…..ขอใช้คำว่า รู้มาก ก็แล้วกัน คือชอบวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นไปซะทุกเรื่อง แต่ตัวเองกลับไม่เคยและไม่ยอมที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อะไรเลย ก็เลยไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นในชีวิตจริงได้ ต้องไปสร้างตัวตนขึ้นมาบนโลกอินเตอร์เน็ต
หรือเจ้าของนามแฝง โดโดริ ที่สร้างตัวตนขึ้นมาบนโลกอินเตอร์เน็ตได้จนเป็นคนสำคัญ ภาคภูมิใจในการที่มีคนติดตามมากมาย แต่เมื่อถูกทำลายลงก็อยากจะทำลายอีกฝ่ายกลับคืน ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกอย่างที่ทำลงไปแม้จะเป็นบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่ทุกคนล้วนได้ผลกระทบในชีวิตจริงทั้งนั้น
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : SOCIAL PHOBIA (2014)
#MovieReview #รีวิวหนัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น